วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
แหล่งท่องเที่ยว:หมู่เกาะพีพี
เกาะที่น่าท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์
น้ำใส ทะเลสวยที่หาดมาหยา ตอนไปเที่ยวที่เกาะพีพีค่ะ
ดูแล้วสบายตาสบายใจดี ยังอยากไปอีกเลย ถ้ามีโอกาสต้องไป
อีกแน่นอนค่ะ
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี
ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ 242,437 ไร่ เป็นพื้นน้ำประมาณ 200,849 ไร่ มีป่าไม้ 3 ประเภท คือ ป่าดงดิบชื้น พบเห็นได้บริเวณเขาสูงชันบริเวณเขาหางนาค เขาอ่าวนาง ป่าชายเลน จะพบบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ คลองย่านสะบ้า และด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณสุสานหอย 40 ล้านปี และป่าพรุ ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างสมบูรณ์ มีสัตว์ต่าง ๆ ที่พบในอุทยานฯ ได้แก่ นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง หมูป่า ลิง และค่าง สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม - เดือนเมษายน
อุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ
หาดนพรัตน์ธารา อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ชายหาดมีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายทะเลยาวเหยียด เมื่อน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ นอกจากนั้นบริเวณชายหาดมีที่พักของอุทยานฯ บริการแก่นักท่องเที่ยว โทร. 0 7563 7200 จากที่ทำการอุทยานฯ เดินเท้าไปตามชายหาดด้านทิศตะวันตก มีบังกะโลหลายแห่งให้บริการนักท่องเที่ยว ชายหาดบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นสถานที่ที่ชาวกระบี่นิยมไปเที่ยวพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ ยังไม่มีถนนตัดเลียบชายหาด
สุสานหอย อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 เซนติเมตร ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหล่อเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี
อ่าวนาง อยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ตามถนนเลียบชายทะเลระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นชายหาดยาว มีที่พักร้านค้า บริษัทนำเที่ยว บริการหลายแห่ง ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนตระหง่าน จากอ่าวนางสามารถเช่าเรือไปเที่ยวชายหาดด้านทิศตะวันออกได้แก่ หาดไร่เล ซึ่งเป็นหาดทรายสีขาวละเอียด และ หาดถ้ำพระนาง ซึ่งมีถ้ำหินงอกหินย้อยและกิจกรรมปีนหน้าผาที่น่าตื่นเต้น ท้องทะเลในบริเวณอ่าวนางมีเกาะใหญ่น้อยกว่า 83 เกาะ บางเกาะมีรูปร่างประหลาดคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก เกาะที่มีหาดทรายสวยงามและคนนิยมไปเที่ยวเล่นน้ำชมปะการังได้แก่ เกาะปอดะ เกาะหม้อ และเกาะทัพ
สำหรับค่าโดยสารเรือจากอ่าวนางไปยังหาดและเกาะต่าง ๆ เช่น อ่าวนาง-ไร่เล ใช้เวลา 10 นาที ค่าโดยสารคนละ 50 บาท อ่าวนาง-ถ้ำพระนาง ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสารคนละ 50 บาท อ่าวนาง-เกาะปอดะ ใช้เวลา 25 นาที ไป-กลับ ค่าโดยสารคนละ 200 บาท อ่าวนาง-เกาะไก่ ไป-กลับ ใช้เวลา 25 นาที ค่าโดยสารคนละ 250 บาท อ่าวนาง-หมู่เกาะห้อง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ราคาค่าเรือลำละ 1,500 บาท สำหรับเวลากลางคืน อ่าวนาง-ไร่เล ค่าโดยสารคนละ 80 บาท สามารถเช่าเรือได้ตั้งแต่เวลา 07.00–19.00 น.
การเดินทางไปอ่าวนางจากตัวเมืองกระบี่ นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถสองแถว ค่าโดยสาร 20 บาท ใช้เวลาประมาณ 45 นาที หรือหากต้องการเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังหาดไร่เลโดยตรง สามารถโดยสารเรือได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลา 45 นาที ค่าโดยสารคนละ 70 บาท
*** หมายเหตุ: ราคาค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง
หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากชนิดที่ยังสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งดึงดูดของนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมได้เกือบตลอดปี และเป็นจุดที่ตกปลาได้ดีเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมมากนัก สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะเป็นที่ตั้งของเกาะทัพ เกาะหม้อ เกาะหัวขวาน เกาะไก่ ซึ่งมีสันทรายเชื่อมต่อกันสวยงามมองเห็นได้เวลาที่น้ำลง
หมู่เกาะพีพี เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเสียงเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการังดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม นอกจากนั้นยังมีเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะพีพี เกาะพีพีดอน มีพื้นที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร จุดเด่นของเกาะคือเวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงามติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม อ่าวต้นไทรเป็นที่ตั้งของท่าเรือเกาะพีพี และมีสถานที่พักและร้านค้าจำนวนมาก จากอ่าวต้นไทรสามารถเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ได้ เกาะพีพีดอนยังมีหาดทรายและอ่าวที่สวยงามกระจายอยู่รอบเกาะ บางแห่งมีที่พักบริการ เช่น หาดแหลมหิน หาดยาว อ่าวโละบาเทา ทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลประมาณ 15-20 ครอบครัว ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะลิเป๊ะ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงมีธรรมชาติใต้ทะเลที่สวยงามและบนหาดมีที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือเที่ยวหรือดำน้ำดูปะการังรอบเกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเลได้ ราคาประมาณ 1,500 บาทต่อลำต่อวัน
เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร มีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแซมเรือได้
เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่าง ๆ
เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงาม และแนวปะการังซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของเกาะ บนเกาะมีสถานที่กางเต็นท์ สอบถามข้อมูลจากอุทยานฯ
การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีได้ทั้งจากกระบี่และภูเก็ต จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ 2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณสอง ชั่วโมงครึ่ง และมีเรือเร็วนำเที่ยวเช้าไปเย็นกลับ ออกจากอ่าวนาง เวลา 09.00 น. และกลับเวลา 17.00 น. ติดต่อโทร. 0 7563 7152-3 สำหรับบริษัท อันดามัน เวฟ มาสเตอร์ จะมีเรือโดยสารออกจากท่าเรือเจ้าฟ้า เรือออกเวลา 10.00 น. และ 14.00 น. ค่าโดยสารคนละ 200 บาท สนใจสอบถามได้ที่ บริษัท เอ ดี วี จำกัด ถนนข้าวสาร โทร. 0 2281 1463-5 หรือ บริษัท อันดามัน เวฟ มาสเตอร์ จำกัด โทร. 0 7563 0471 ส่วนการเดินทางจากภูเก็ตมีเรือนำเที่ยวเกาะพีพีแบบเช้าไปเย็นกลับ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไปในตัวเมืองภูเก็ต
นอกจากนี้บริเวณอ่าวต้นไทรบนเกาะพีพีดอน มีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยวตามชายหาดต่าง ๆ รวมถึงเกาะพีพีเลด้วย บริษัท พีพี แฟมิลี่ จำกัด โทร. 0 7561 2463
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พ.พ.4 (ทับแขก) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานฯ ใช้เส้นทางตามทางหลวง 4200 จนถึงสี่แยกคลองจิหลาด เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 4034 ตรงไปถึงสามแยกบ้านหนองทะเล เลี้ยวซ้ายตรงไปบ้านคลองม่วง และเลี้ยวขวาอีกครั้งตรงไปที่ทำการหน่วยพิทักษ์ฯ ระยะทาง 38 กิโลเมตร พื้นที่เป็นภูเขาที่สมบูรณ์ด้วยป่าไม้และสัตว์ป่า มีจุดชมวิวที่สวยงามคือหงอนนาค ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลกระบี่ได้อย่างสวยงาม หน่วยพิทักษ์ฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 3.7 กิโลเมตร ต้องมีคนนำทาง
สนใจดูข้อมูลได้ที่ http://travel.sanook.com/south/krabi/krabi_03603.php
น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกที่มีระยะทางยาวประมาณ 1,500 เมตร ติดต่อกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นชั้นๆ ได้ 7 ชั้นเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เดิม มีชื่อว่า น้ำตกสะด่องม่องลาย ตามชื่อลำห้วยม่องล่ายซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำตกที่เกิดจากยอดเขา ตาม่องล่ายใน เทือกเขาสลอบ สายน้ำจะไหลมาตามชั้นหินเป็นระยะทางประมาณ 1,500 เมตร แบ่งออกเป็นชั้นใหญ่ๆได้ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีีควา
มสวยงามร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ทั้งเถาวัลย์พันเกี่ยวทอดตัวไปบนต้นไม้ใหญ่ กล้วยไม้ป่า หลายชนิดบนคาคาคบไม้ สายธารน้ำที่ไหลตกลดหลั่นลงมาบนโขดหินสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เสียงสาดซ่า คลอเคล้า ด้วยเสียงเพรียกของนกป่า ทำให้สภาพความเป็นธรรมชาติสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นับเป็นบรรยากาศที่เรียกเอาความมี คุณค่าของป่าเขาลำเนา ไพรซึมซับเข้าสู่อารมณ์ของผู้ใฝ่ความสันโดษ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง ในชั้นที่ 7 อันเป็นชั้นบนสุดของน้ำตกลักษณะของน้ำตกชั้นที่ 7 ลักษณะสายน้ำไหลบ่า มองดูคล้ายกับหัวช้างเอราวัณซึ่งมี 3 หัว จึงกลายมาเป็นที่มาของชื่อน้ำตก จนคนทั่วไปรู้จักและขนานนามว่า “น้ำตกเอราวัณ”
สิ่งที่รู้สึกได้เมื่อมาถึงยังบริเวณน้ำตก คือความเย็นสบายแต่เมื่อได้เห็นตัวน้ำตกก็ต้องตะลึงในความงามของตัว น้ำตกที่น้ำใสแจ๋ว มองเห็นตัวปลาแหวกว่ายไปมาใต้ผืนน้ำที่สะท้อนแสงเป็นสีฟ้าอมเขียวมรกตคล้ายน้ำใน สระว่ายน้ำ ที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากลักษณะของภูเขาใน อุทยานฯเอราวัณ เป็นเป็นเทือกเขาหินปูนที่เกิดจาก การทับถมของ เปลือกหอย ปู หรือปะการังดังนั้นน้ำตกเอราวัณที่ไหลมาจากเทือกเขาหินปูนจึงมีสารละลายของ แคลเซียมคาร์บอเนต เจือปนอยู่ ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตนี้จะตกตะกอนในบริเวณที่มีน้ำไหลช้าหรือเป็นแอ่งน้ำ ทำให้ชั้นน้ำตกมีคราบหินปูนก่อตัว และหินปูนนี้สามารถละลายน้ำได้ดี เมื่ออยู่ในรูปของสารละลายก็สามารถ ตก ตะกอนได้ น้ำตกหินปูนจึงมีน้ำใสในตอนบน และมีการตกตะกอนขุ่นในช่วงล่างของธารน้ำ เมื่อแสงส่องลงมาจะ ทำให้สะท้อนเป็นสีฟ้าหรือสีเขียวมรกตสวยงามมากแอ่งน้ำใสๆ
น้ำตกชั้นแรกมีชื่อว่า"ไหลคืนรัง"ชั้นต่อมาชื่อ"วังมัจฉา" ชั้นที่ 3 "ผาน้ำตก" ชั้นที่4"อกผีเสื้อ" ชั้นที่ 5 "เบื่อไม่ลง" ชั้นที่ 6"ดงพฤกษา" และชั้นสุดท้ายชื่อว่า "ภูผาเอราวัณ"โดยน้ำตกแต่ละชั้นไม่ใช่มีแค่ชื่อที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น แต่น้ำตกแต่ละชั้นก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป สำหรับท่านที่ต้องการเยี่ยมชมน้ำตกทั้ง 7 ชั้นจาก การสอบถามจากเจ้าหน้าที่จะต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการขึ้น - ลง ซ้าย น้ำตกชั้นที่1, ขวา น้ำตกชั้นที่ 2
เราทางอุทยานฯตั้งชื่อเช่นนี้ คิดว่าอาจจะเป็นเพราะน้ำตกชั้นนี้มีปลาอาศัยอยู่เยอะก็เป็นได้ ซึ่งปลาเหล่านี้คือ "ปลาพลวง" เป็นปลาน้ำจืดในตระกูลปลาตะเพียน ลำตัวสีน้ำตาลเขียว เกล็ดโต มีหนวดยาว 2 คู่ ตรงจงอยปาก และ มุมปาก ชอบอาศัยบริเวณธารน้ำตก ลำห้วย หรือธารน้ำที่ใสสะอาด มีพื้นเป็นกรวดหรือทราย ที่วังมัจฉาสี ของน้ำมี 2 สีอย่างเห็นได้ชัด คือน้ำสีฟ้าเขียวและน้ำใสๆตามปกติ ซึ่งปลาพลวงชอบจะอาศัยอยู่ในน้ำใสมากกว่า นอกจากนี้ที่น้ำตกชั้น 2ยังมีความสวยงามของม่านน้ำตกที่เบื้องหลังสายน้ำตกที่ตกลงมากระเซ็นเป็นฝอยนั้นมี ผาลึกเข้าไปเล็กน้อย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปหลังม่านน้ำตกนี้ได้ ซ้าย อีกมุมของน้ำตกชั้นที่ 2 , ขวา น้ำตกชั้นที่4
น้ำตกชั้นที่ 3 ที่มีน้ำตกที่ตกลงมาจากผาชันดังชื่อของน้ำตกชั้นนี้ว่า"ผาน้ำตก" จากนั้นก็เดินข้ามสะพานไม้ถัดขึ้น ไปเป็นน้ำตกชั้นที่ 4 "อกผีเสื้อ" ที่มีชื่อเช่นนี้ก็คงเพราะรูปร่างของหินที่อยู่ในน้ำตกชั้นนี้ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" มองดูคล้ายอกของผู้หญิง หรือถ้าเป็นอกผีเสื้อก็คงเป็นอกผีเสื้อสมุทร ที่มีน้ำตกไหลครอบคลุมหินกลมมน ก้อนใหญ่ 2 ก้อนดูแล้วนิ่มนวลสวยงามมาก ระหว่างทางไปน้ำตก
ถัดมาเป็นน้ำตกชั้นที่ 5 ชื่อว่า"เบื่อไม่ลง" ด้วยลักษณะของน้ำที่ไหลตกลงมาตามชั้นหินเตี้ยๆหลายๆชั้นบวกกับน้ำ ที่มีสีฟ้าเขียวทำให้เกิดความสวยงามน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง ต่อไปเป็นชั้น "ดงพฤกษา" ซึ่งอุดมไปด้วยแมกไม้ นานา พันธุ์แต่ดูไม่รกทึบส่วนชั้นสุดท้าย "ภูผาเอราวัณ" ที่ได้ชื่อเช่นนี้คงเนื่องมาจากว่าเมื่อน้ำตกไหล บ่าผ่านผา และชั้นหินบน ภูเขามองดูจากระยะไกลคล้ายกับหัวช้างเอราวัณซึ่งมี 3 หัว จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกชั้นที่ 7 และเป็นชื่อของอุทยาน แห่งชาตินี้ด้วย น้ำตกชั้นที่ 5
นอกจากนี้ทางอุทยานฯได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที คือ เส้นทางสายป่าดิบแล้งม่องไล่ - ระยะทาง 1,010 เมตร ลักษณะเป็นทางเดินเลียบลำห้วยม่องไล่ เริ่มจากสะพานค่ายพักไปบรรจบกับเส้นทาง ใน
น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 3 เส้นทางเขาหินล้านปี - ระยะทาง 1,940 เมตร เริ่มจากลานจอดรถไปบรรจบกับเส้นทาง สู่น้ำตกบริเวณสะพานของ น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 4 ค่าธรรมเนียมเข้าชม
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเวลา 7.30-16.00 น.
- ค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ 40 บาท/คน เด็ก 20 บาท/คน
- รถกอล์ฟคิดค่าบริการเที่ยวละ 20 บาท/คน สิ่งอำนวยความสะดวกอุทยานแห่งชาติเอราวัณมีบ้านพัก เต็นท์และค่ายพักแรม มีร้านค้า ขายอาหารมากมายหลายร้านไว้บริการ นักท่องเที่ยว ติดต่อสอบ ถามรายละเอียดและสำรองที่พัก ได้ที่ฝ่ายบริการบ้านพัก ส่วนอำนวยการสำนักอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ ิกรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 5797223 , 5795734 หรือ 5614292 - 4 ต่อ 724,725 หรือติดต่ออุทยานแห่งชาติ โดยตรง อุทยานแห่งชาติเอราวัณต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250
โทรศัพท์ 0 3457 4222, 0 3457 4234 โทรสาร 0 3457 4288, 0 3457 4234
หมายเหตุ: อุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปในบริเวณน้ำตกเกินชั้น 3 เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและ ความเป็นธรรมชาติเอาไว้เรื่องราวและบทควาที่เกี่ยวข้อง- การเิดินทางไปน้ำตกเอราวัณ1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
ไปตามถนนเพชรเกษมหรือไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึงจังหวัด กาญจนบุรี รวมระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สำหรับการเดินทางจากตัวเมือง กาญจนบุรีไปยัง อุทยานแห่งชาติเอราวัณสามารถใช้ได้ คือ เริ่มต้นจากจังหวัดกาญจนบุรีไปตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 3199 ถึง เขตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนศรีนครินทร์ ข้ามสะพานไปยังตลาดเขื่อน ศรีนครินทร์ แล้วจึงเลยเข้า ไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 70 กิโลเมตร เดินทาง จากอุทยานแห่งชาติไทรโยค จะมีเส้นทางบริเวณบ้านวังใหญ่อยู่ห่างจาก น้ำตกไทรโยคน้อยประมาณ 6 กิโลเมตร ลัดออกไปบ้านโป่งปัดบริเวณเขื่อน ท่าทุ่งนาระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนน หมายเลข 3199 อีกประมาณ 25 กิโลเมตร ถึงที่ ี่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
2. โดยรถสาธารณะ
รถโดยสารธรรมดา/รถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ทุก 15 นาที ตั้งแต่เวลา 04.00-20.30 น. ถึง จังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง จาก สถานีขนส่งกาญจนบุรี หมายเลข 8170 กาญจนบุรี-เอราวัณ ออก ทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 08.00-17.20 น. เพื่อเดิน ทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณจากนั้นนั่งรถสายกาญจนบุรี - เอราวัณ ไปลงหน้าที่ทำการอุทยานแห่ง ชาติเอราวัณ แล้วเดินเข้าไปยังน้ำตกอีก 500 เมตร ค่าโดยสารรถประจำทาง 40 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ
1 ชั่วโมง 30 นาที หรือออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ชั้น 1 ช่อง 21 สายกรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ ตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. โดย แวะจอดที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้น เดินทางโดยรถโดยสารประจำ ทางสายกาญจนบุรี-เอราวัณ เพื่อเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ แผนที่ไปน้ำตกเอราวัณ
- ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก คุณเอ http://phitchaphat.multiply.com
- ขอบคุณข้อมูลจากอุทยานแห่งชาติเอราวัณบทความและเรื่องราวท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง■สัมผัสธรรมชาติ เที่ยวชิวที่เมืองกาญ
■สัมผัสหมอก กอดหนาว ห่มดาว 3 ตะวัน กาญจนบุรี
■ชมภาพ ไปด้วยกันทริป 3 ตอน เปิดตำนานทองผาภูมิ ปิล๊อก เวอร์ชั่นวิว
■ไปด้วยกันทริป 3 เที่ยวสังขละบุรี สัมผัสวิถีแห่งมอญ
■เพราะความคิดถึง ฉันจึงมาหาเธอ "ปิล็อก"
■สังขละบุรีในความทรงจำ
■มาไขความงามของชื่อ ที่น้ำ้ตกห้วยแม่ขมิ้น
■รีวิว..เที่ยวเมืองกาญจนบุรี... ถูก ดี ฟรี คุ้ม!!!จริงๆด้วย!!!
■เที่ยวปิล็อก กินเค้กป้าเกลน ขึ้นฐานช้างศึกนอนเล่นชมหมอก แกะทากที่จ๊อกกระดิ่น
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุีรี■ทางรถไฟสายมรณะ
■สะพานข้ามแม่น้ำแคว
■สุสานทหารสัมพันธมิตร
■พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะ
■กองถ่ายสมเด็จพระนเรศวร
■อุทยานแห่งชาติไทรโยค
■น้ำตกไทรโยคน้อย
■น้ำตกไทรโยคใหญ่
■ถ้ำดาวดึงส์
■อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์
■ช่องเขาขาด
■ถ้ำกระแซ
■เกาะทะล
■อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
■น้ำตกเอราวัณ
■น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
■อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
■อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
■โบสถ์สแตนเลส วัดปากลำแข้ง
■เขาหัวโล้น
■อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
■ปิล๊อก
■บ้านป้าเกล็น
■น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
■อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
■เขื่อนเขาแหลม
■น้ำพุร้อนหินดาด
■น้ำตกผาตาด
■น้ำตกเกริงกระเวีย
■ถ้ำน้ำตก
■ถ้ำนกนางแอ่นถ้ำเวิรลด์คัพ
■สะพานมอญ
■เมืองบาดาล
■วัดหลวงพ่ออุตตะมะ
■เจดีย์พุทธคยา
■ด่านเจดีย์สามองค์
■น้ำตกตะเคียนทอง
**สนใจข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.paiduaykan.com/76_province/central/kanjanaburi/arawanwaterfall.html
มสวยงามร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ทั้งเถาวัลย์พันเกี่ยวทอดตัวไปบนต้นไม้ใหญ่ กล้วยไม้ป่า หลายชนิดบนคาคาคบไม้ สายธารน้ำที่ไหลตกลดหลั่นลงมาบนโขดหินสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เสียงสาดซ่า คลอเคล้า ด้วยเสียงเพรียกของนกป่า ทำให้สภาพความเป็นธรรมชาติสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นับเป็นบรรยากาศที่เรียกเอาความมี คุณค่าของป่าเขาลำเนา ไพรซึมซับเข้าสู่อารมณ์ของผู้ใฝ่ความสันโดษ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง ในชั้นที่ 7 อันเป็นชั้นบนสุดของน้ำตกลักษณะของน้ำตกชั้นที่ 7 ลักษณะสายน้ำไหลบ่า มองดูคล้ายกับหัวช้างเอราวัณซึ่งมี 3 หัว จึงกลายมาเป็นที่มาของชื่อน้ำตก จนคนทั่วไปรู้จักและขนานนามว่า “น้ำตกเอราวัณ”
สิ่งที่รู้สึกได้เมื่อมาถึงยังบริเวณน้ำตก คือความเย็นสบายแต่เมื่อได้เห็นตัวน้ำตกก็ต้องตะลึงในความงามของตัว น้ำตกที่น้ำใสแจ๋ว มองเห็นตัวปลาแหวกว่ายไปมาใต้ผืนน้ำที่สะท้อนแสงเป็นสีฟ้าอมเขียวมรกตคล้ายน้ำใน สระว่ายน้ำ ที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากลักษณะของภูเขาใน อุทยานฯเอราวัณ เป็นเป็นเทือกเขาหินปูนที่เกิดจาก การทับถมของ เปลือกหอย ปู หรือปะการังดังนั้นน้ำตกเอราวัณที่ไหลมาจากเทือกเขาหินปูนจึงมีสารละลายของ แคลเซียมคาร์บอเนต เจือปนอยู่ ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตนี้จะตกตะกอนในบริเวณที่มีน้ำไหลช้าหรือเป็นแอ่งน้ำ ทำให้ชั้นน้ำตกมีคราบหินปูนก่อตัว และหินปูนนี้สามารถละลายน้ำได้ดี เมื่ออยู่ในรูปของสารละลายก็สามารถ ตก ตะกอนได้ น้ำตกหินปูนจึงมีน้ำใสในตอนบน และมีการตกตะกอนขุ่นในช่วงล่างของธารน้ำ เมื่อแสงส่องลงมาจะ ทำให้สะท้อนเป็นสีฟ้าหรือสีเขียวมรกตสวยงามมากแอ่งน้ำใสๆ
น้ำตกชั้นแรกมีชื่อว่า"ไหลคืนรัง"ชั้นต่อมาชื่อ"วังมัจฉา" ชั้นที่ 3 "ผาน้ำตก" ชั้นที่4"อกผีเสื้อ" ชั้นที่ 5 "เบื่อไม่ลง" ชั้นที่ 6"ดงพฤกษา" และชั้นสุดท้ายชื่อว่า "ภูผาเอราวัณ"โดยน้ำตกแต่ละชั้นไม่ใช่มีแค่ชื่อที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น แต่น้ำตกแต่ละชั้นก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป สำหรับท่านที่ต้องการเยี่ยมชมน้ำตกทั้ง 7 ชั้นจาก การสอบถามจากเจ้าหน้าที่จะต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการขึ้น - ลง ซ้าย น้ำตกชั้นที่1, ขวา น้ำตกชั้นที่ 2
เราทางอุทยานฯตั้งชื่อเช่นนี้ คิดว่าอาจจะเป็นเพราะน้ำตกชั้นนี้มีปลาอาศัยอยู่เยอะก็เป็นได้ ซึ่งปลาเหล่านี้คือ "ปลาพลวง" เป็นปลาน้ำจืดในตระกูลปลาตะเพียน ลำตัวสีน้ำตาลเขียว เกล็ดโต มีหนวดยาว 2 คู่ ตรงจงอยปาก และ มุมปาก ชอบอาศัยบริเวณธารน้ำตก ลำห้วย หรือธารน้ำที่ใสสะอาด มีพื้นเป็นกรวดหรือทราย ที่วังมัจฉาสี ของน้ำมี 2 สีอย่างเห็นได้ชัด คือน้ำสีฟ้าเขียวและน้ำใสๆตามปกติ ซึ่งปลาพลวงชอบจะอาศัยอยู่ในน้ำใสมากกว่า นอกจากนี้ที่น้ำตกชั้น 2ยังมีความสวยงามของม่านน้ำตกที่เบื้องหลังสายน้ำตกที่ตกลงมากระเซ็นเป็นฝอยนั้นมี ผาลึกเข้าไปเล็กน้อย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปหลังม่านน้ำตกนี้ได้ ซ้าย อีกมุมของน้ำตกชั้นที่ 2 , ขวา น้ำตกชั้นที่4
น้ำตกชั้นที่ 3 ที่มีน้ำตกที่ตกลงมาจากผาชันดังชื่อของน้ำตกชั้นนี้ว่า"ผาน้ำตก" จากนั้นก็เดินข้ามสะพานไม้ถัดขึ้น ไปเป็นน้ำตกชั้นที่ 4 "อกผีเสื้อ" ที่มีชื่อเช่นนี้ก็คงเพราะรูปร่างของหินที่อยู่ในน้ำตกชั้นนี้ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" มองดูคล้ายอกของผู้หญิง หรือถ้าเป็นอกผีเสื้อก็คงเป็นอกผีเสื้อสมุทร ที่มีน้ำตกไหลครอบคลุมหินกลมมน ก้อนใหญ่ 2 ก้อนดูแล้วนิ่มนวลสวยงามมาก ระหว่างทางไปน้ำตก
ถัดมาเป็นน้ำตกชั้นที่ 5 ชื่อว่า"เบื่อไม่ลง" ด้วยลักษณะของน้ำที่ไหลตกลงมาตามชั้นหินเตี้ยๆหลายๆชั้นบวกกับน้ำ ที่มีสีฟ้าเขียวทำให้เกิดความสวยงามน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง ต่อไปเป็นชั้น "ดงพฤกษา" ซึ่งอุดมไปด้วยแมกไม้ นานา พันธุ์แต่ดูไม่รกทึบส่วนชั้นสุดท้าย "ภูผาเอราวัณ" ที่ได้ชื่อเช่นนี้คงเนื่องมาจากว่าเมื่อน้ำตกไหล บ่าผ่านผา และชั้นหินบน ภูเขามองดูจากระยะไกลคล้ายกับหัวช้างเอราวัณซึ่งมี 3 หัว จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกชั้นที่ 7 และเป็นชื่อของอุทยาน แห่งชาตินี้ด้วย น้ำตกชั้นที่ 5
นอกจากนี้ทางอุทยานฯได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที คือ เส้นทางสายป่าดิบแล้งม่องไล่ - ระยะทาง 1,010 เมตร ลักษณะเป็นทางเดินเลียบลำห้วยม่องไล่ เริ่มจากสะพานค่ายพักไปบรรจบกับเส้นทาง ใน
น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 3 เส้นทางเขาหินล้านปี - ระยะทาง 1,940 เมตร เริ่มจากลานจอดรถไปบรรจบกับเส้นทาง สู่น้ำตกบริเวณสะพานของ น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 4 ค่าธรรมเนียมเข้าชม
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเวลา 7.30-16.00 น.
- ค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ 40 บาท/คน เด็ก 20 บาท/คน
- รถกอล์ฟคิดค่าบริการเที่ยวละ 20 บาท/คน สิ่งอำนวยความสะดวกอุทยานแห่งชาติเอราวัณมีบ้านพัก เต็นท์และค่ายพักแรม มีร้านค้า ขายอาหารมากมายหลายร้านไว้บริการ นักท่องเที่ยว ติดต่อสอบ ถามรายละเอียดและสำรองที่พัก ได้ที่ฝ่ายบริการบ้านพัก ส่วนอำนวยการสำนักอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ ิกรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 5797223 , 5795734 หรือ 5614292 - 4 ต่อ 724,725 หรือติดต่ออุทยานแห่งชาติ โดยตรง อุทยานแห่งชาติเอราวัณต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250
โทรศัพท์ 0 3457 4222, 0 3457 4234 โทรสาร 0 3457 4288, 0 3457 4234
หมายเหตุ: อุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปในบริเวณน้ำตกเกินชั้น 3 เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและ ความเป็นธรรมชาติเอาไว้เรื่องราวและบทควาที่เกี่ยวข้อง- การเิดินทางไปน้ำตกเอราวัณ1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
ไปตามถนนเพชรเกษมหรือไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึงจังหวัด กาญจนบุรี รวมระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สำหรับการเดินทางจากตัวเมือง กาญจนบุรีไปยัง อุทยานแห่งชาติเอราวัณสามารถใช้ได้ คือ เริ่มต้นจากจังหวัดกาญจนบุรีไปตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 3199 ถึง เขตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนศรีนครินทร์ ข้ามสะพานไปยังตลาดเขื่อน ศรีนครินทร์ แล้วจึงเลยเข้า ไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 70 กิโลเมตร เดินทาง จากอุทยานแห่งชาติไทรโยค จะมีเส้นทางบริเวณบ้านวังใหญ่อยู่ห่างจาก น้ำตกไทรโยคน้อยประมาณ 6 กิโลเมตร ลัดออกไปบ้านโป่งปัดบริเวณเขื่อน ท่าทุ่งนาระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนน หมายเลข 3199 อีกประมาณ 25 กิโลเมตร ถึงที่ ี่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
2. โดยรถสาธารณะ
รถโดยสารธรรมดา/รถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ทุก 15 นาที ตั้งแต่เวลา 04.00-20.30 น. ถึง จังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง จาก สถานีขนส่งกาญจนบุรี หมายเลข 8170 กาญจนบุรี-เอราวัณ ออก ทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 08.00-17.20 น. เพื่อเดิน ทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณจากนั้นนั่งรถสายกาญจนบุรี - เอราวัณ ไปลงหน้าที่ทำการอุทยานแห่ง ชาติเอราวัณ แล้วเดินเข้าไปยังน้ำตกอีก 500 เมตร ค่าโดยสารรถประจำทาง 40 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ
1 ชั่วโมง 30 นาที หรือออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ชั้น 1 ช่อง 21 สายกรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ ตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. โดย แวะจอดที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้น เดินทางโดยรถโดยสารประจำ ทางสายกาญจนบุรี-เอราวัณ เพื่อเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ แผนที่ไปน้ำตกเอราวัณ
- ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก คุณเอ http://phitchaphat.multiply.com
- ขอบคุณข้อมูลจากอุทยานแห่งชาติเอราวัณบทความและเรื่องราวท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง■สัมผัสธรรมชาติ เที่ยวชิวที่เมืองกาญ
■สัมผัสหมอก กอดหนาว ห่มดาว 3 ตะวัน กาญจนบุรี
■ชมภาพ ไปด้วยกันทริป 3 ตอน เปิดตำนานทองผาภูมิ ปิล๊อก เวอร์ชั่นวิว
■ไปด้วยกันทริป 3 เที่ยวสังขละบุรี สัมผัสวิถีแห่งมอญ
■เพราะความคิดถึง ฉันจึงมาหาเธอ "ปิล็อก"
■สังขละบุรีในความทรงจำ
■มาไขความงามของชื่อ ที่น้ำ้ตกห้วยแม่ขมิ้น
■รีวิว..เที่ยวเมืองกาญจนบุรี... ถูก ดี ฟรี คุ้ม!!!จริงๆด้วย!!!
■เที่ยวปิล็อก กินเค้กป้าเกลน ขึ้นฐานช้างศึกนอนเล่นชมหมอก แกะทากที่จ๊อกกระดิ่น
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุีรี■ทางรถไฟสายมรณะ
■สะพานข้ามแม่น้ำแคว
■สุสานทหารสัมพันธมิตร
■พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะ
■กองถ่ายสมเด็จพระนเรศวร
■อุทยานแห่งชาติไทรโยค
■น้ำตกไทรโยคน้อย
■น้ำตกไทรโยคใหญ่
■ถ้ำดาวดึงส์
■อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์
■ช่องเขาขาด
■ถ้ำกระแซ
■เกาะทะล
■อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
■น้ำตกเอราวัณ
■น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
■อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
■อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
■โบสถ์สแตนเลส วัดปากลำแข้ง
■เขาหัวโล้น
■อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
■ปิล๊อก
■บ้านป้าเกล็น
■น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
■อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
■เขื่อนเขาแหลม
■น้ำพุร้อนหินดาด
■น้ำตกผาตาด
■น้ำตกเกริงกระเวีย
■ถ้ำน้ำตก
■ถ้ำนกนางแอ่นถ้ำเวิรลด์คัพ
■สะพานมอญ
■เมืองบาดาล
■วัดหลวงพ่ออุตตะมะ
■เจดีย์พุทธคยา
■ด่านเจดีย์สามองค์
■น้ำตกตะเคียนทอง
**สนใจข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.paiduaykan.com/76_province/central/kanjanaburi/arawanwaterfall.html
ซัมเมอร์นี้ ที่เกาะช้าง
ไปเที่ยวเกาะช้างราคาประหยัดกันเถอะ
การไปเที่ยวเกาะช้างในราคาที่ประหยัดนั้น ก่อนอื่นเลยเราต้องวางแผนก่อนครับ ถ้าเราไปเที่ยวไม่กี่คนก็ควรต้องวางแผนการใช้เงินให้เรียบร้อยก่อนไป หลายๆคนก็เลือกที่จะไปเที่ยวแบบมีไกด์พาไป อันนั้นก็ดีไปอีกแบบ คือเราไม่ต้องยุ่งยากเรื่องต่างๆไกด์จะพาเราเที่ยวไปในที่ต่างๆเอง และราคาก็ไม่ค่อยแพงด้วย เราต้องเลือกแพคเกจดีๆ ตามที่ใจเราต้องการ ถ้าเราไม่เลือกก่อน การไปเที่ยวของคุณอาจจะทำให้ไม่สนุกก็ได้ แต่ด้วยเสน่ห์ของเกาะช้าง ไม่ว่าเที่ยวยังไงก็สนุกครับ มีหลายๆคนที่เลือกไปแบบแบคแพคเกอร์ อันนั้นก็สนุกไปอีกแบบครับ
เมื่อเราไปเที่ยวเกาะช้างเราจะเห็นว่า คนที่ทำธุรกิจที่นั่นหลายๆคน ไม่ใช่คนในท้องถิ่น เพราะหลายๆคน ติดใจความสวยงามของเกาะช้างหลังจากที่ได้มีโอกาสมาสัมผัส จึงเลือกที่จะทำงาน และอยู่ที่นั่นอย่างถาวร ด้วยท้องทะเลที่มีความสวยงามของเกาะช้าง หาดทุกๆหาดล้วนแล้วแต่ขาวสะอาด ผู้คนในท้องถิ่นเป็นกันเอง ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่มีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติ ที่เกาะช้างมีกิจกรรมหลากหลายให้เราได้ทำ เช่น กิจกรรมทางน้ำหลายๆอย่าง การปีนเขา เป็นต้น ต้องแต่ที่ผมยังเป็นนักศึกษานั้น ผมได้มาเที่ยวที่เกาะช้างเป็นครั้งแรก ก็ทำให้ผมติดใจที่นี่เสียแล้ว การที่เราไปเที่ยวที่ไหนแล้วติดใจจนไม่อยากกลับนั้นมีเพียงไม่กี่ที่หรอกครับ กะช้างถือได้ว่าเป็นสถานที่ ที่วิเศษสุดๆของใครหลายๆคนรวมทั้งตัวผมเอง มีคู่รักหลายๆคู่มาขอแต่งงานกันที่นี่ เนื่องจากความโรแมนติกของที่นี่ ทำให้สาวๆหลายๆคนจะเอ่ยปากประติเสทได้ยาก การดำน้ำชมปะการังก็เป็นอีกกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างมากของที่นี่ เพราะที่เกาะช้างก็นับได้ว่ามีปะการังที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง และยังมีหาดหลายหาดให้เราเลือกที่จะอยู่อีกด้วย แต่ละหาดก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ตอนไปเที่ยวที่เกาะช้างนั้น ผมได้เห็นหลายๆครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้ความผูกพันในครอบครัวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในทุกๆครั้งที่ผมได้เห็นพ่อแม่ลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ผมจะยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจทุกที เพราะได้เห็นสีหน้าที่มีความสุขของคนพวกนั้น ก็ทำให้ผมมีความสุข เป็นอีกมนวิเศษของเกาะช้าง ที่สามารถทำให้ครอบครัวหลายๆครอบครัวรักกันมากยิ่งขึ้น
การไปเที่ยวเกาะช้างด้วยราคาที่ประหยัดนั้น เราควรวางแผนก่อนที่จะเริ่มเดินทาง ดูว่าพักที่ไหน แหล่งของกิน แหล่งเดินซื้อของ แหล่งท่องเที่ยว ราคาถูกๆอยู่ที่ไหน ถ้าไปกันไม่กี่คน ก็ควรจะไปด้วยรถทัวร์หรือรถไฟ ถ้าไม่สะดวกก็อาจจะไปกับทัวร์ต่างๆ เราต้องดูแพคเกจที่เหมาะกับความต้องการของตัวเราด้วย เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เที่ยวอย่างสนุกและราคาประหยัดแล้วครับ
เกาะช้างที่เที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในเมืองไทย
ถ้าพูดถึงเกาะช้างไม่ว่าใครก็ต้องอยากจะไปกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่ไม่ชอบทะเล ภูเขา แสงแดด หาดทรายขาว และธรรมชาติที่สวยงาม และที่เกาะช้างยังอุดมไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิดที่ขึ้นตามฤดูกาลอีกด้วย วิถีชีวิตของคนบนเกาะช้างก็น่าจะอนุรักษ์ไว้ และน่าชื่นชมมาก อาหารทะเลก็มากไปด้วยคุณประโยชน์ล้วนแล้วแต่ให้สารอาหารที่ครบถ้วนต่อร่างกายทั้งนั้น
เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทยเรา รองจากเกาะภูเก็ต ที่เกาะช้างนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามทั้งน้ำตก และหาดทรายขาวแล้ว ยังมีวิถีชีวิต ชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าท่องเที่ยว เป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพจนเกินไปนัก และที่เกาะช้างสภาพอากาศที่สามารถเดินทางไปเที่ยวเกือบตลอดทั้งปี หมู่เกาะช้าง จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศนิยมมาอย่างไม่ขาดสาย หาดที่ได้รับความนิยมของเกาะคือ หาดทรายขาว, หาดคลองพร้าว, หาดไก่แบ้, หาดบางเบ้า, โลนลี่ บีช, อ่าวใบลาน, อ่าวคลองสน, หาดไข่มุก, สลักเพชร, บ้านเจ๊กแบ้ และ ด่านเก่า เป็นต้น สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้จัดอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับมากที่สุดในเกาะช้างเลยทีเดียว หากใครที่ชื่นชอบทะเลใสและหาดทรายสวยๆแล้ว เราขอแนะนำหาดทรายขาว สำหรับคนที่ชอบอาหารการกิน เราขอแนะนำให้ไปเดินซื้อของกินที่หมู่บ้านชาวประมง และใครที่ชอบผลไม้สามารถหาซื้อผลไม้สดๆจากสวนตลอดทั้งสองฝั่งทางของเกาะได้เลย ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะช้างแห่งนี้ก็ใจดีหากใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นท่องเที่ยวจากที่ไหนหรือหาที่พักที่ถูกใจไม่ได้ ก็สามารถถามผู้คนที่แสนจะใจดีที่นั่นได้ตลอดเส้นทางที่คุณผ่านได้เลย อาหารพื้นบ้านของที่เกาะช้างนี้ก็อร่อยมาก โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูเพราะตอนที่เราไปเที่ยวนั้น เราไปพักแบบโฮมสเตย์บ้านที่เราไปพักเขาใจดีมาก ตอนเช้าก็พาเราไปเดินซื้อของกินที่หมู่บ้านชาวประมง ตอนบ่ายพาไปเล่นน้ำที่หาดไก่แบ้ และที่สำคัญคือมื้อเย็นที่แสนอร่อยที่เจ้าของบ้านเขาทำให้ทานก็คือน้ำพริกปลาทู อร่อยมาก
เรารับรองได้เลยว่าเมื่อคุณมาท่องเที่ยวที่เกาะช้างแห่งนี้ เมื่อคุณกลับไปคุณจะมีแต่รอยยิ้มและความสุขเพิ่มขึ้นทวีคูณเลยทีเดียว ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวไหนที่คนไทยอย่างเราไปแล้วสุขใจและสนุกได้เท่าเที่ยวที่เมืองไทยของเราอีกแล้ว ที่เกาะช้างเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับวันหยุดยาว หรือสำหรับท่องเที่ยวกับครอบครัวและคนสำคัญ
การไปเที่ยวเกาะช้างในราคาที่ประหยัดนั้น ก่อนอื่นเลยเราต้องวางแผนก่อนครับ ถ้าเราไปเที่ยวไม่กี่คนก็ควรต้องวางแผนการใช้เงินให้เรียบร้อยก่อนไป หลายๆคนก็เลือกที่จะไปเที่ยวแบบมีไกด์พาไป อันนั้นก็ดีไปอีกแบบ คือเราไม่ต้องยุ่งยากเรื่องต่างๆไกด์จะพาเราเที่ยวไปในที่ต่างๆเอง และราคาก็ไม่ค่อยแพงด้วย เราต้องเลือกแพคเกจดีๆ ตามที่ใจเราต้องการ ถ้าเราไม่เลือกก่อน การไปเที่ยวของคุณอาจจะทำให้ไม่สนุกก็ได้ แต่ด้วยเสน่ห์ของเกาะช้าง ไม่ว่าเที่ยวยังไงก็สนุกครับ มีหลายๆคนที่เลือกไปแบบแบคแพคเกอร์ อันนั้นก็สนุกไปอีกแบบครับ
เมื่อเราไปเที่ยวเกาะช้างเราจะเห็นว่า คนที่ทำธุรกิจที่นั่นหลายๆคน ไม่ใช่คนในท้องถิ่น เพราะหลายๆคน ติดใจความสวยงามของเกาะช้างหลังจากที่ได้มีโอกาสมาสัมผัส จึงเลือกที่จะทำงาน และอยู่ที่นั่นอย่างถาวร ด้วยท้องทะเลที่มีความสวยงามของเกาะช้าง หาดทุกๆหาดล้วนแล้วแต่ขาวสะอาด ผู้คนในท้องถิ่นเป็นกันเอง ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่มีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติ ที่เกาะช้างมีกิจกรรมหลากหลายให้เราได้ทำ เช่น กิจกรรมทางน้ำหลายๆอย่าง การปีนเขา เป็นต้น ต้องแต่ที่ผมยังเป็นนักศึกษานั้น ผมได้มาเที่ยวที่เกาะช้างเป็นครั้งแรก ก็ทำให้ผมติดใจที่นี่เสียแล้ว การที่เราไปเที่ยวที่ไหนแล้วติดใจจนไม่อยากกลับนั้นมีเพียงไม่กี่ที่หรอกครับ กะช้างถือได้ว่าเป็นสถานที่ ที่วิเศษสุดๆของใครหลายๆคนรวมทั้งตัวผมเอง มีคู่รักหลายๆคู่มาขอแต่งงานกันที่นี่ เนื่องจากความโรแมนติกของที่นี่ ทำให้สาวๆหลายๆคนจะเอ่ยปากประติเสทได้ยาก การดำน้ำชมปะการังก็เป็นอีกกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างมากของที่นี่ เพราะที่เกาะช้างก็นับได้ว่ามีปะการังที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง และยังมีหาดหลายหาดให้เราเลือกที่จะอยู่อีกด้วย แต่ละหาดก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ตอนไปเที่ยวที่เกาะช้างนั้น ผมได้เห็นหลายๆครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้ความผูกพันในครอบครัวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในทุกๆครั้งที่ผมได้เห็นพ่อแม่ลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ผมจะยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจทุกที เพราะได้เห็นสีหน้าที่มีความสุขของคนพวกนั้น ก็ทำให้ผมมีความสุข เป็นอีกมนวิเศษของเกาะช้าง ที่สามารถทำให้ครอบครัวหลายๆครอบครัวรักกันมากยิ่งขึ้น
การไปเที่ยวเกาะช้างด้วยราคาที่ประหยัดนั้น เราควรวางแผนก่อนที่จะเริ่มเดินทาง ดูว่าพักที่ไหน แหล่งของกิน แหล่งเดินซื้อของ แหล่งท่องเที่ยว ราคาถูกๆอยู่ที่ไหน ถ้าไปกันไม่กี่คน ก็ควรจะไปด้วยรถทัวร์หรือรถไฟ ถ้าไม่สะดวกก็อาจจะไปกับทัวร์ต่างๆ เราต้องดูแพคเกจที่เหมาะกับความต้องการของตัวเราด้วย เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เที่ยวอย่างสนุกและราคาประหยัดแล้วครับ
เกาะช้างที่เที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในเมืองไทย
ถ้าพูดถึงเกาะช้างไม่ว่าใครก็ต้องอยากจะไปกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่ไม่ชอบทะเล ภูเขา แสงแดด หาดทรายขาว และธรรมชาติที่สวยงาม และที่เกาะช้างยังอุดมไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิดที่ขึ้นตามฤดูกาลอีกด้วย วิถีชีวิตของคนบนเกาะช้างก็น่าจะอนุรักษ์ไว้ และน่าชื่นชมมาก อาหารทะเลก็มากไปด้วยคุณประโยชน์ล้วนแล้วแต่ให้สารอาหารที่ครบถ้วนต่อร่างกายทั้งนั้น
เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทยเรา รองจากเกาะภูเก็ต ที่เกาะช้างนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามทั้งน้ำตก และหาดทรายขาวแล้ว ยังมีวิถีชีวิต ชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าท่องเที่ยว เป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพจนเกินไปนัก และที่เกาะช้างสภาพอากาศที่สามารถเดินทางไปเที่ยวเกือบตลอดทั้งปี หมู่เกาะช้าง จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศนิยมมาอย่างไม่ขาดสาย หาดที่ได้รับความนิยมของเกาะคือ หาดทรายขาว, หาดคลองพร้าว, หาดไก่แบ้, หาดบางเบ้า, โลนลี่ บีช, อ่าวใบลาน, อ่าวคลองสน, หาดไข่มุก, สลักเพชร, บ้านเจ๊กแบ้ และ ด่านเก่า เป็นต้น สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้จัดอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับมากที่สุดในเกาะช้างเลยทีเดียว หากใครที่ชื่นชอบทะเลใสและหาดทรายสวยๆแล้ว เราขอแนะนำหาดทรายขาว สำหรับคนที่ชอบอาหารการกิน เราขอแนะนำให้ไปเดินซื้อของกินที่หมู่บ้านชาวประมง และใครที่ชอบผลไม้สามารถหาซื้อผลไม้สดๆจากสวนตลอดทั้งสองฝั่งทางของเกาะได้เลย ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะช้างแห่งนี้ก็ใจดีหากใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นท่องเที่ยวจากที่ไหนหรือหาที่พักที่ถูกใจไม่ได้ ก็สามารถถามผู้คนที่แสนจะใจดีที่นั่นได้ตลอดเส้นทางที่คุณผ่านได้เลย อาหารพื้นบ้านของที่เกาะช้างนี้ก็อร่อยมาก โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูเพราะตอนที่เราไปเที่ยวนั้น เราไปพักแบบโฮมสเตย์บ้านที่เราไปพักเขาใจดีมาก ตอนเช้าก็พาเราไปเดินซื้อของกินที่หมู่บ้านชาวประมง ตอนบ่ายพาไปเล่นน้ำที่หาดไก่แบ้ และที่สำคัญคือมื้อเย็นที่แสนอร่อยที่เจ้าของบ้านเขาทำให้ทานก็คือน้ำพริกปลาทู อร่อยมาก
เรารับรองได้เลยว่าเมื่อคุณมาท่องเที่ยวที่เกาะช้างแห่งนี้ เมื่อคุณกลับไปคุณจะมีแต่รอยยิ้มและความสุขเพิ่มขึ้นทวีคูณเลยทีเดียว ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวไหนที่คนไทยอย่างเราไปแล้วสุขใจและสนุกได้เท่าเที่ยวที่เมืองไทยของเราอีกแล้ว ที่เกาะช้างเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับวันหยุดยาว หรือสำหรับท่องเที่ยวกับครอบครัวและคนสำคัญ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)